หลังจากผู้ประกาศข่าวสาว “ตาล-ประวีณมัย บ่ายคล้อย” เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ภาษีเจริญ หลังถูกแก๊งคอลเซนเตอร์ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน โทรเข้ามาแจ้งเรื่องเกี่ยวกับการเสียภาษีที่ดิน และให้แอดเฟรนด์ผ่านทางไลน์ อ้างเพื่ออำนวยความสะดวกและส่งลิงก์หลอกให้โหลดแอปพลิเคชันของหน่วยงาน ก่อนโดนดูดเงิน 3 บัญชี รวมจำนวนกว่า 1 ล้านบาท

ล่าสุด“ตาล-ประวีณมัย บ่ายคล้อย” ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ผ่านยูทูปของ กรมที่ดิน Channel

แฉมิจฉาชีพอ้างติดต่ออัปเดตข้อมูลจัดเก็บภาษีที่ดิน ขู่มีผลกับการเสียภาษีในอนาคต

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 เมื่อตอน 10.00 น. ขณะตัวเองกำลังนั่งทำงานอยู่ มิจฉาชีพได้โทรเข้ามา อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ที่ดิน พร้อมระบุพิกัดและเนื้อที่ของที่ดินอย่างชัดเจน ทำทีเช็กว่าข้อมูลที่มีอยู่ในมือเขาถูกต้องหรือไม่ ซึ่งถูกทั้งหมด ทำให้ไม่ได้เอะใจอะไร

หลังจากนั้นมิจฉาชีพ ได้อ้างต่อว่าได้ส่งหนังสืออัปเดตเรื่องภาษีที่ดินที่บ้านไปให้ ได้รับแล้วหรือยัง ซึ่งตัวเรายังไม่ได้รับ จึงตอบไปว่ายังไม่ได้

มิจฉาชีพจึงพูดอีกว่า ให้รีบอัปเดต ไม่งั้นข้อมูลจะตกหล่น ซึ่งจะมีผลกับการเสียภาษีในภายหน้า โดยสามารถอัปเดตได้ 2 ช่องทาง คือ ที่กรมที่ดิน หรือผ่านช่องทางออนไลน์

ด้วยความที่ก่อนหน้านี้ตัวเองเพิ่งเสียภาษีที่ดินออนไลน์ไป จึงตัดสินใจทำเรื่องผ่านทางออนไลน์ ซึ่งมิจฉาชีพก็ให้แอดไลน์ไป ก็พบว่ามีรูปโลโก้ของกรมที่ดิน แล้วเขียนว่า "เจ้าหน้าที่ฝ่ายกองทะเบียนออนไลน์ ติดต่อยืนยันการอัปเดตสถานะข้อมูลที่ดินให้เป็นปัจจุบัน"

หลังจากนั้นก็ให้สมัครแอปพลิเคชันของกรมที่ดิน บอกว่าแอปฯ นี้จะช่วยอำนวยความสะดวก ให้เรากดเข้าไป แต่เมื่อกดเข้าไป ปรากฏว่าโทรศัพท์ก็ฟรีซ มิจฉาชีพก็บอกอีกว่า ให้รอหน่อย จากนั้นก็ชวนเราคุยเพื่อถ่วงเวลา

ถามว่ามีโฉนดที่ดินไหม ถ้าไม่มี จะให้จดเลขที่โฉนด หน้าระวาง เนื้อที่ของที่ดิน เสร็จแล้วให้เอาไปตรวจสอบกับโฉนดของตัวเองภายหลัง ขณะที่มิจฉาชีพบอกให้จด เขาก็พยายามให้เราทวนข้อมูล ทำทีดุว่าเราจดจริงๆ แล้วหรือไม่

พอโหลดเสร็จเขาก็บอกให้เราตั้งรหัส 6 ตัว และ 4 ตัว ซึ่งรหัสนี้มิจฉาชีพอ้างว่าต้องใช้ตลอด เพราะถ้าจะเปลี่ยนต้องไปเปลี่ยนที่กรมที่ดินเท่านั้น เราจึงเลือกรหัสเดียวกันกับที่เราใช้อยู่ปัจจุบันเพื่อให้จำง่าย

หลังจากตั้งรหัสเสร็จแล้ว มิจฉาชีพก็ยังชวนคุย พยายามถามย้ำว่าที่ดินมีเนื้อที่เท่าไร กี่ตาราง เสร็จแล้วอยู่ดีๆ ก็ถามว่ามีแบงค์อื่นอีกไหม ซึ่งตัวเองไม่เข้าใจ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นจับผิด เสร็จแล้วอยู่ดีๆ มิจฉาชีพก็พูดว่า เราจะได้ภาษีคืนด้วย แต่จะต้องอัปเดตข้อมูลในระบบ และจะต้องมีการสแกนหน้า เพื่อความปลอดภัย แต่ในบางคนก็อาจต้องสแกนหลายครั้ง เนื่องจากแต่งหน้ามากไป หรือไปศัลยกรรมมา ซึ่งของตัวเองโดนไปประมาณ 3-4 ครั้ง

คุยไปคุยมารวมแล้วเป็นชั่วโมง ก็ยังพูดต่อว่าปีหน้าก็เอาไปลดหย่อนภาษีเงินได้ได้ ตอนแรกในใจเราก็งงว่าจะลดหย่อนได้อย่างไร เพราะตัวเองพอจะรู้เรื่องนี้อยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน เลยไม่ได้ตอบอะไร

แต่แฟนโทรมาพอดี ตอนแรกเราบอกปัดไปว่า อย่าเพิ่งโทรมา คุยกับเจ้าหน้าที่กรมที่ดินอยู่ เขาบอกจะคืนเงินภาษีให้

แฟนก็เสิรช์ข้อมูลมาบอกว่า คืนเงินภาษีอะไร ไม่ใช่นะ กรมที่ดินเขาเตือนแล้วนะแบบนี้ เราก็เลยนึกในใจว่ามีแบบนี้ด้วยหรอ จึงถามมิจฉาชีพในสายว่า โกหกหรือป่าว เขามีเตือนกันด้วยนะ ว่ามันมีแบบนี้

มิจฉาชีพตอบกลับมาเลยว่าไม่ ก็นี่มีการสแกนใบหน้าด้วย ถ้าหลอกลวงจะไม่มีการสแกนใบหน้านะคะ จะแค่หลอกโอนเงิน หลอกกดลิงก์ แต่กรมที่ดิน ราจะมีแสกนใบหน้า เพื่อความปลอดภัย

เราเริ่มจะจับผิดเขาบ้าง จึงถามชื่อเขา ซึ่งเขาก็บอกมากลับมาทันทีพอเราเอาไปเสิรช์ปรากฏว่าก็มีชื่อของเจ้าหน้าที่คนนี้จริงๆ อยู่ที่จังหวัดภูเก็ต แต่เขายังพยายามให้เราแสกนใบหน้าอีก แต่เราเริ่มงอแงและรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว จึงตัดสินใจไม่สแกนต่อและไม่คุยต่อแล้ว โทรศัพท์จึงหายฟรีซ แล้วแอปพลิเคชันธนาคารจากเดินที่เราตั้งห้องซ่อนเอาไว้ด้านใน ตัวแอปพลิเคชันก็ออกมาอยู่ด้านหน้าหมดเลย

แต่เมื่อเข้าไปตรวจสอบเงินในบัญชีก็พบว่า มีการโอนเงินเข้า และโอนเงินออก บางบัญชีโอนเข้ามาก่อน 500,000 บาท และโอนเข้าไปอีก 120,000 บาท แต่ก็ออกไปอีก 500,000 กับ 175,000 บาท มากกว่าเงินโอนเข้าเสียอีก เป็นแบบนี้กับหลายบัญชีธนาคารของเรา เราจึงรีบโทรไปอายัดคำพูดจาก สล็อตฝ

เมื่อตรวจสอบกับทางแบงค์ พบว่า มิจฉาชีพได้เบิกเงินสดจากบัตรเครดิตที่เราพ่วงไว้ในแอปพลิเคชันธนาคารต่างๆ ของเรา เสร็จแล้วเพิ่มวงเงิน โอนเงินเข้าไปยังบัญชีธนาคาร และโอนเงินของเราออกไป สรุปรวม 3 บัญชี โดนดูดเงินไปกว่า 1 ล้านบาท

รัฐบาล โชว์ผลงานปราบอาชญากรรมออนไลน์ อายัด 5.8 หมื่นบัญชีม้า ปิดเว็บพนันเกือบ 2,000 เว็บ

เปิด 4 กลโกงโจรออนไลน์ “หลอกลงทุน-โอนเงิน” เตือนประชาชนระวัง

กรมที่ดินเปิดกลเม็ดมิจฉาชีพรู้ข้อมูลเหยื่อได้อย่างไร

จากที่อธิบดีกรมที่ดินได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างชื่อกรมที่ดินในการหลอกลวงเหยื่อพบว่า ข้อมูลไม่ได้รั่วไหลจากกรมที่ดิน และระบบฐานข้อมูลของกรมที่ดินไม่ได้ถูกแฮก

แต่มิจฉาชีพได้ข้อมูลมาจากหลายแหล่งแล้วนำมาประกอบกัน โดย ได้ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร จากบริษัทหรือพนักงานที่ให้บริการส่งสินค้า หรือจาก Dark Web (เว็บที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสิ่งผิดกฎหมาย โดยไม่รู้จักตัวตนของกันและกัน) จากนั้นจึงนำที่อยู่ของเหยื่อมาเสิร์จหาตำแหน่งที่ตั้งจาก Google Maps เมื่อรู้ว่าอยู่บริเวณใดแล้ว ก็ใช้โปรแกรม LandsMaps ในการค้นหาเลขโฉนดที่ดิน จำนวนเนื้อที่ และราคาประเมินที่ดิน (LandsMaps คือระบบค้นหารูปแปลงที่ดิน ซึ่งเป็นโปรแกรมของกรมที่ดินที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเชื่อมต่อระบบนำทางแผนที่สากลของ Google Maps ซึ่งให้บริการฟรีแก่ประชาชน) โดยมิจฉาชีพจะนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้หลอกเหยื่อว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ที่ดิน ทำให้เหยื่อหลงเชื่อเพราะมิจฉาชีพรู้ข้อมูลอย่างละเอียด

จุดเด่นอีกข้อของ LandsMaps คือเชื่อมกับ Google Earth สามารถใช้ Street View Google เข้าไปดูได้ว่าบริเวณรอบบ้าน หรือบริเวณที่ดินของเหยื่อมีอะไรบ้าง เช่น มีศาลพระภูมิ รั้วบ้านสีน้ำเงิน รู้หมด ทำให้เหยื่อยิ่งเชื่อถือ ซึ่งที่จริงกรมที่ดินทำแอปพลิเคชัน LandsMaps ขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบว่าแปลงที่ดินอยู่ตรงไหน ราคาประเมินเท่าไร ถ้าจะทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่ดินต้องติดต่อสำนักงานไหน แต่มิจฉาชีพกลับนำข้อมูลนี้ไปใช้หลอกให้เหยื่อเชื่อว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดินจริง

อย่างไรก็ตามกรมที่ดินได้พัฒนาแอปพลิเคชัน LandMaps รูปแบบใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2566 แล้ว โดยจะให้ระบบ LandsMaps แสดงข้อมูลเลขโฉนดที่ดิน หน้าสำรวจ และเลขที่ดินเฉพาะผู้ที่เข้าใช้งานระบบ โดยยืนยันตัวตนผ่าน ThaiD หรือใช้ระบบผ่านทางรัฐเท่านั้น

ส่งมัลแวร์ผ่านแอปฯ ปลอม หลอกดูดเงิน

ส่วนมิจฉาชีพดูดเงินจากบัญชีเหยื่อ อย่างไรนั้น เกิดขึ้นเมื่อเหยื่อคลิกเข้าไปในแอปพลิเคชันที่มิจฉาชีพส่งมา แอปดังกล่าวจะส่งมัลแวร์เข้าไปล้วงข้อมูล internet banking หรือธนาคารออนไลน์ในมือถือของเหยื่อ เสมือนหนึ่งเป็นเจ้าของบัญชีแล้วทำการโอนเงินออกไป

หากบัญชีธนาคารนั้นมีบัตรเครดิตด้วยจะดำเนินการใช้เงินในบัตรจนเต็มวงเงิน ขณะเดียวกัน มือถือของเหยื่อจะหยุดทำงานหรือที่เรียกว่ามือถือค้าง กดอะไรไม่ได้ ทำให้เหยื่อไม่รู้ว่ามีการโอนเงินในบัญชีออกไป ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจึงได้รับความเสียหายอย่างมาก บางรายถึงขั้นหมดเนื้อหมดตัว

เตือนภัยประชาชนไม่โหลดแอปฯ นอก Play Store – App Store

กรมที่ดิน ขอเตือนภัยประชาชน ไม่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่างๆ นอก Play Store หรือ App Store เด็ดขาก หากพบลักษณะดังกล่าว สามารถโทรสอบถามที่ศูนย์ดำรงธรรม กรมที่ดิน 0-2141-5555 หรือโทรแจ้งที่กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท) 1441

ย้ำกรมที่ดิน ไม่โทร ไม่ไลน์

พร้อมย้ำว่า หน้าที่ของกรมที่ดินจะไม่อัปเดตข้อมูลจัดเก็บภาษีที่ดิน จะไม่มีการขอแอดไลน์ ไม่โทรหาประชาชนเป็นการส่วนตัว และที่สำคัญกรมที่ดิน ไม่มีฝ่ายทะเบียนที่ดินออนไลน์