ปัจจุบันเราไม่อาจปฎิเสธได้เลยว่าโทรศัพท์มือถือเเละอินเทอร์เน็ตกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเราสะดวกสบายขึ้นจนเเทบที่จะขาดมันไม่ได้เลย เเละรู้หรือไม่ว่าประเทศไทยมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตสูงเป็นอันดับที่ 19 ของโลก มีผู้ใช้งานมากกว่า 61 ล้านคน คิดเป็น 85% ของประชากรทั้งหมด ตามผลสำรวจของ Data reportal

นั่นจึงทำให้เวลาเราไปไหนอินเทอร์เน็ตก็มักจะมีพร้อมในรูปเเบบของไวไฟสาธารณะ ให้เราเชื่อมต่อสู่โลกออนไลน์ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า คาเฟ่ ร้านกาเเฟ ร้านอาหาร หรือเเม้กระทั่งบนรถ เเต่ทุกท่านรู้หรือไม่ว่าอินเทอร์เน็ตที่คอยให้บริการพวกเราเหล่านั้นอาจไม่ปลอดภัยเสมอไป เเละเป็นอันตรายอย่างมากโดยเฉพาะกับการทำธุรกรรมเเละกิจกรรมที่สุ่มเสี่ยง เเต่ก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักกับประเภทของอินเทอร์เน็ตกันก่อนดีกว่าว่า มีรูปเเบบไหนบ้าง เเละเเบบไหนที่ปลอดภัยต่อการใช้งาน

ประเภทของอินเทอร์เน็ต

ในชีวิตประจำวันของเรา อินเทอร์เน็ตที่คุ้นหน้าคุ้นตาเราจะมีอยู่ 2 ประเภท อันได้เเก่คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

1. WiFi – Broadband – Ethernet หรือเราเรียกกันติดปากว่า “เน็ตบ้าน” ถ้าหากต่อสาย LAN เข้ากับเครื่องรับก็จะทำให้ได้รับความเร็วอินเทอร์เน็ตที่สูงเเละไม่สะดุด เป็นการเชื่อมต่อโดยตรงไปยังสายทองเเดง หรือใยเเก้วไฟเบอร์ออปติคเพื่อเชื่อมต่อ เเต่ถ้าหากเครื่องรับไม่สามาถต่อสาย LAN ได้ อีกวิธีหนึ่งคือการต่อ WiFi ซึ่งเป็นการกระจายสัญญาณออกจากตัว Router กลายเป็นการเชื่อมต่อเเบบ WLAN ทำให้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตเเบบไร้สายได้ ซึ่ง WiFi นั้นหากไม่ตั้งค่า ทุกคนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ก็เห็นสัญญาณเเละสามารถเชื่อมต่อได้หากมีรหัสผ่าน ถ้าอยู่ในบ้านก็จะนับเป็น WiFi ส่วนตัว เเต่ถ้าหากอยู่ในที่สาธารณะ บางครั้งเราต้องทำการลงทะเบียนเพื่อขอเข้าใช้งาน ถึงจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้

2. Mobile-Hotspot ในที่นี้พูดให้เข้าใจง่ายคืออินเทอร์เน็ตมือถือ ทั้งหมดมีหลักการเดียวกันคือเป็นอินเทอร์เน็ตที่มีแต่เจ้าของเท่านั้นที่จะใช้งานได้ เว้นเเต่กรณีของ Hotspot ที่จะทำการเปลี่ยนอินเทอร์เน็ตส่วนตัวให้สามารถใช้ได้หลายคนคล้ายกับ WiFi โดยอินเทอร์เน็ตจะมาจาก SIM card ของผู้ให้บริการรวมเข้ากับบริการอินเทอร์เน็ตที่สมัครไว้กับผู้ใช้ผ่านเสากระจายสัญญาณที่มีอยู่รอบ ๆ ส่วน 3G เเละ 4G นั้นเป็นประเภทของคลื่นสัญญาณไม่ใช่การเชื่อมต่อ

นอกเหนือจากนั้นจะมี Dial-up หรืออินเทอร์เน็ตที่ต่อกับสายโทรศัพท์ซึ่งเป็นระบบเก่าที่ใช้ในบ้านเรา แต่ปัจจุบันไม่ค่อยพบเจอเเล้ว อีกประเภทคือ Satellite Internet ที่เป็นการส่งสัญญาณมาจากดาวเทียม เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณ แต่มีค่าบริการที่สูงมาก

ทำไม WiFi สาธารณะถึงมีความเสี่ยง

เเน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าเป็นสาธารณะ หมายความว่าใครก็มีสิทธิที่จะเเอบเข้ามาดูการใช้งานของเราได้ ไม่เหมือนอินเทอร์เน็ตส่วนตัว เราจะไม่มีทางรู้เลยว่าใครกำลังจ้องจะเล่นงานอยู่ การกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน เพื่อขอเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตนั้นก็มีความเสี่ยงที่ข้อมูลจะถูกดึงเเละเก็บไว้กับผู้ไม่ประสงค์ดีก็ได้ โดยในกรณีของการทำธุรกรรมออนไลน์นั้นอาจทำให้คุณหมดตัว หรือโดนสวมรอยกลายเป็นอาชญากรโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเราไม่ควรคิดว่าที่สาธารณะนั้นเป็นที่ปลอดภัยเสมอ ขนาดอาชญากรระดับโลก Ross Ulbricht เจ้าของ Silkroad Dark web ยังนั่งในห้องสมุดสาธารณะตอนถูกจับกุม โดยพวกเราเเทบไม่มีทางดูออกได้เลย

นอกเหนือจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น บางครั้งเเฮ็คเกอร์อาจใช้วิธีเเชร์ Hotspot ของตนเเละเปลี่ยนชื่อให้น่าเชื่อถือเพื่อหลอกล่อให้คนเข้ามาใช้งาน หรือเเอบสอดเเทรก Malware หรือ Ransomware เข้ามาก็เป็นได้

วิธีป้องกันให้ข้อมูลของคุณปลอดภัย

เราไม่สามารถป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ได้ 100% เเต่เรามีวิธีช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำให้เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้น ง่ายที่สุดเลยคือการลดการใช้ WiFi สาธารณะเเละหันมาใช้อินเทอร์เน็ตส่วนตัวให้มากขึ้น ประกอบกับการหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมทางการเงินหรือกิจกรรมสำคัญผ่าน WiFi สาธารณะ เช่น การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล การชำระค่าบริการ ใช้งานอีเมลบริษัท หรือใช้งานเเอปพลิเคชันธนาคาร เป็นต้น เพียงเท่านี้ข้อมูลของคุณก็จะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เเต่ถ้าจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตสาธารณะจริง ๆ เราก็มีคำเเนะนำให้กับทุกท่าน

โดยก่อนที่จะการเชื่อมต่อ WiFi สาธารณะ ผู้ใช้งานควรเปิด VPN เพื่อไม่ให้ข้อมูลรั่วไหลออกไปได้ง่าย ในจุดนี้ต้องระวังบริการ VPN ฟรี ๆ ให้ดีเพราะบางครั้งก็มีการเเอบใส่โปรเเกรมเพื่อขโมยข้อมูลลงในเเอปพลิเคชัน อีกวิธีหนึ่งที่ควรจะปฎิบัติคือการล้างประวัติเเละเเคชข้อมูลต่าง ๆ ก่อนเชื่อมต่อ WiFi เพราะว่าเมื่อเชื่อมต่อเเล้วนั้น หากโดนโจมตี เเฮ็คเกอร์สามารถเรียกประวัติต่าง ๆ ที่เคยบันทึกไว้ในเครื่องเเละโอนถ่ายไปยังเครื่องของเเฮ็คเกอร์ได้ เมื่อทำการใช้งานผู้ใช้ควรหลีกเลี่ยงที่จะ Log in หรือเปิดหลายเเอปพลิเคชันพร้อมกัน เมื่อเลิกใช้งานควรลบ WiFi นั้นออกจากการค้นหา ถ้าจะให้ดีควรปิด-เปิดเครื่องใหม่เพื่อ Re-boot ระบบ

สุดท้ายนี้เเม้ว่าการเชื่อมต่อของคุณจะปลอดภัยมากขึ้นเเล้วก็ตาม ทุกคนควรต้องเช็คให้เสมอว่าเว็บไซต์ที่เราเยี่ยมชมนั้นปลอดภัยหรือไม่ โดยพยายามอย่ากรอกข้อมูลสำคัญหรือข้อมูลส่วนตัวลงไปในเว็บไซต์ เเละเเอปพลิเคชันที่น่าสงสัย เท่านี้เราก็สามารถท่องอินเทอร์เน็ตได้อย่างไร้กังวลคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ที่มา Bitkub Blog, Explodingtopics, CNN, Xfinity, Aura