เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา กลุ่มฮามาสเผยคลิปวิดีโอเปิดปฏิบัติการบุกงานเทศกาลดนตรีซูเปอร์โนวาใกล้บริเวณฉนวนกาซา ในอิสราเอลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากวิดีโอจะเห็นว่านักรบฮามาสได้นั่งรถเข้าไปยังสถานที่เกิดเหตุ และไล่ยิงห้องน้ำเคลื่อนที่ทีละห้อง ก่อนบุกเข้าไปในงาน ซึ่งเป็นจุดที่มีผู้คนจำนวนมาก รวมถึงชาวต่างชาติเข้าร่วมงาน
ทั้งนี้ งานเทศกาลดนตรีนี้ ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายแรก ๆ ของกลุ่มติดอาวุธฮามาส และเป็นจุดที่พบร่างของผู้เสียชีวิตมากถึง 260 ศพ และมีอีกหลายสิบคนถูกจับเป็นตัวประกัน
ชาวปาเลสไตน์ในกาซาเหนือ เร่งหนีลงใต้ ก่อนอิสราเอลโจมตีถล่มภาคพื้นดิน
100 คนไทยในอิสราเอล ถึงสนามบินอู่ตะเภา 15 ต.ค.นี้
แรงงานไทยอิสราเอลผวา ระเบิดลอยข้ามหัวถูกบังคับทำงานต่อ คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นอกเหนือจากคลิปปฏิบัติการบุกโจมตีอิสราเอลแล้ว ในวันเดียวกัน กลุ่มฮามาสยังได้เผยแพร่คลิปที่นักรบฮามาสบุกเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งในชุมชนเกษตร ย่านคิบบุตซ์ (Kibbutz) ซึ่งอยู่ห่างจากฉนวนกาซาเพียง 2 กิโลเมตร จากภาพจะเห็นว่ากลุ่มฮามาสกำลังดูแลเด็ก อุ้มโอ๋เด็กที่กำลังร้อง และมีภาพของเด็กอยู่กลางวงล้อมของกลุ่มนักรบด้วย
ทั้งนี้ในคลิปวิดีโอดังกล่าว มีนักรบคนหนึ่งกล่าวว่า นี่คือการแสดงให้เห็นถึงความมีเมตตาในจิตใจของพวกเขา และพวกเขาไม่ได้ฆ่าเด็กๆ เหมือนที่อิสราเอลทำกับชาวปาเลสไตน์ อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักรบเหล่านี้ไม่ได้พูดถึงพ่อแม่ของเด็กเหล่านี้ และยังไม่ทราบชะตากรรมของพวกเขาด้วย
ส่วนสถานการณ์ในฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่กองกำลังอิสราเอลได้โปรยกระดาษข้อความเหนือท้องฟ้าของฉนวนกาซา เพื่อขอให้ชาวกาซา 1.1 ล้านคนที่อยู่ทางตอนเหนืออพยพไปยังวาดิ ซึ่งเป็นดินแดนทางตอนใต้ของฉนวนกาซาเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากอิสราเอลเตรียมปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มฮามาสในอีก 24 ชม.
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้ประชาชนในพื้นที่เริ่มเก็บข้าวของ และเดินทางอพยพไปทางตอนใต้ในทันที ขณะที่สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ OCHA เปิดเผยว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทำให้ตอนนี้มีผู้คนในกาซาต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนแล้วมากกว่า 400,000 คน
ส่วนช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีรายงานว่า ในฉนวนกาซามีระเบิดเกิดขึ้นหลายครั้ง และส่งเสียงดังไปทั่วพื้นที่ในยามค่ำคืน อิสราเอลยังคงโจมตีพื้นที่ฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ล่าสุดในฝั่งฉนวนกาซา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,900 คน ขณะที่ฝั่งอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตรวมกว่า 1,300 คน และยังพบผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์ส 1 คน เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ทางตอนใต้ของเลบานอน
ขณะที่ภารกิจช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสจับกุมตัวไป รวมถึงการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังฉนวนกาซา และความคืบหน้าในการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างสองฝ่าย ยังคงอยู่ระหว่างการหารือของหลาย ๆ ฝ่าย
ล่าสุด กลุ่มฮามาสได้ออกมาเคลื่อนไหว โดยระบุว่า ยินดีตอบรับข้อเสนอของรัสเซียที่จะเข้ามาผู้ไกล่เกลี่ยความขัดแย้งนี้ พร้อมยกย่องประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ที่แสดงจุดยืนด้วยการออกมาพูดถึงการรุกรานของอิสราเอลในดินแดนของปาเลสไตน์ และได้ขอให้ทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบเพื่อลดการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือน
อย่างไรก็ตามการแสดงความเห็นต่อประเด็นความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาส ของประธานาธิบดีปูติน มีขึ้นขณะที่รัสเซียยังคงทำสงครามกับยูเครนอย่างโหดเหี้ยม และตัวของประธานาธิบดีปูตินเองก็ถูกศาลอาญาระหว่างประเทศออกหมายจับ ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามต่อมนุษยชาติ